ยานพาหนะในทุกธุรกิจโดยทั่วไปมีไว้เพื่อจุดประสงค์ในการขนส่งหรือการเดินทาง ซึ่งค่าใช้จ่ายที่มักมาคู่กับการใช้ยานพาหนะก็คือ ค่าซ่อมบำรุงและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง โดยค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงสามารถกำหนดประมาณการไว้ล่วงหน้าได้จากการเช็กระยะทุก ๆ 6 เดือนหรือทุก ๆ 1 ปี หากแต่ค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจำเป็นต้องสำรวจจากปริมาณการใช้งานภายในธุรกิจ ซึ่งมีความไม่แน่นอนและเป็นสิ่งที่หลาย ๆ ธุรกิจยังประสบกับปัญหาค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันที่สูงเกินความจำเป็นและควบคุมได้ยาก
ปัจจุบันยังพบว่าหลายธุรกิจยังให้ ผู้ที่ใช้งานยานพาหนะนั้น ๆ เป็นประจำเป็นคนนำรถไปเติมน้ำมัน โดยใช้วิธีการชำระเงินด้วย เงินสด บัตรเครดิต หรือวิธีการวางบิล ซึ่งในจุดนี้อาจเป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตและการตรวจสอบยังทำได้ยากอีกด้วย เพราะฉะนั้นบัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ดจะเป็นตัวช่วยในการควบคุมและตรวจสอบทุกค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันให้เป็นไปตามที่ธุรกิจคุณต้องการ
บัตรเติมน้ำมันหรือฟลีทการ์ดให้คุณเป็นผู้กำหนดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้ตามต้องการ ตั้งแต่เรื่องของการกำหนดชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิง วงเงินในการเติมน้ำมัน ยิ่งไปกว่านั้นเพิ่มความปลอดภัยในทุกการใช้จ่ายด้วยรหัสผ่านที่คุณสามารถกำหนดได้เอง เมื่อต้องตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายก็สามารถเข้าเช็กได้ตลอดเวลา แถมยังช่วยให้การวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยรายงานสรุปยอดค่าใช้จ่าย เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันของธุรกิจคุณให้เป็นระบบและตรวจสอบได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
คุณสามารถกำหนดวงเงินไว้ล่วงหน้าได้ทั้งการใช้งานต่อครั้งหรือในรูปแบบรายวัน / รายสัปดาห์ / รายเดือน อีกทั้งยังเลือกควบคุมวงเงินในบัตรได้ทั้งวงเงินบาทและปริมาณลิตรในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละครั้งเพื่อให้เป็นไปตามความเหมาะสมของธุรกิจคุณ
บัตรเติมน้ำมันหรือฟลีทการ์ด เป็นการซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงด้วยเงินเชื่อในราคาเงินสดหรือเป็นบัตรเครดิตนิติบุคคลเพื่อใช้สำหรับชำระค่าน้ำมันแทนเงินสด มีระยะเวลาในการชำระเงินคืนและปลอดดอกเบี้ยสูงสุด 55 วัน ถือเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องในด้านเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หมดกังวลเรื่องพกเงินสดไปได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติมน้ำมันสำหรับรถโดยสารหรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จำเป็นต้องพกเงินสดจำนวนมากสำหรับจ่ายค่าน้ำมันในแต่ละครั้ง อีกทั้งการตรวจสอบการทุจริตที่ยังทำได้ยาก เพราะไม่มีหลักฐานหรือระบบบันทึกการใช้จ่ายในแต่ละครั้ง หากเพียงแต่คุณเปลี่ยนมาใช้บัตรเติมน้ำมันหรือฟลีทการ์ดในธุรกิจของคุณ นอกจากไม่ต้องพกเงินสดให้ยุ่งยากแล้ว ยังสามารถกำหนดรหัสผ่านเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในทุกการใช้งาน และมีรายงานตรวจสอบได้ทุกการใช้จ่าย และที่สำคัญยังสามารถระบุทะเบียนรถลงบนหน้าบัตร ป้องกันการลักลอบนำไปใช้ส่วนตัวได้อีกด้วย
คุณสามารถติดตามค่าใช้จ่ายได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยระบบออนไลน์ทั้งยอดค่าใช้จ่ายปัจจุบันและรายงานค่าใช้จ่ายแบบแยกภาษีมูลค่าเพิ่ม ลดภาระงานเอกสารภายในบริษัท เพราะธนาคารผู้ออกบัตรจะเป็นทั้งผู้จัดทำและจัดส่งรายงานค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทในทุก ๆ เดือน
1. บัตรเติมน้ำมันหรือฟลีทการ์ดต่างจากบัตรเครดิต เนื่องจากไม่สามารถใช้รูดซื้อสินค้า บริการ หรือกดเงินสดได้ และยังจำกัดการใช้งานไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเติมน้ำมันกับสถานีบริการน้ำมันที่เป็นพันธมิตรกับธนาคารผู้ออกบัตรเท่านั้น
2. การเปลี่ยนแปลงในส่วนของชนิดน้ำมันเชื้อเพลิงและเงื่อนไขในการใช้งาน จำเป็นต้องติดต่อสถานีบริการน้ำมันหรือธนาคารผู้ออกบัตร เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายในบัตรเสียก่อน หรือบางกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลงหมายเลขทะเบียนรถบนหน้าบัตร คุณจำเป็นต้องทำการออกบัตรใหม่ บัตรจึงจะสามารถใช้งานได้ตามปกติ มักใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 วัน
3. สำหรับธุรกิจที่สนใจสมัครบัตรเติมน้ำมันหรือฟลีทการ์ดจำเป็นต้องมียอดรวมค่าใช้จ่ายขั้นต่ำในการเติมน้ำมันเฉลี่ยต่อคันหรือต่อเดือน เป็นไปตามเงื่อนไขของสถานีบริการน้ำมันหรือธนาคารนั้น ๆ เป็นผู้กำหนด
บัตรฟลีทการ์ดสามารถสมัครได้ทั้งทางเว็บไซต์และติดต่อสมัครได้โดยตรงกับทางสถานีบริการน้ำมันที่เลือกใช้บริการ หรือผ่านธนาคารที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับสถานีบริการน้ำมัน
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว จะเห็นได้ว่า การจ่ายค่าน้ำมันผ่านบัตรเติมน้ำมัน โดยเฉพาะกับธุรกิจนั้นดีกว่าการชำระเงินในรูปแบบเดิม ๆ ของคุณยังไง อย่ารอช้า! รีบสมัครฟลีทการ์ดกับสถานีบริการน้ำมันหรือธนาคารที่เป็นพันธมิตรกับสถานีบริการน้ำมันที่คุณเลือกไว้วางใจใช้บริการ
บัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ดพร้อมมอบอำนาจการควบคุมที่เหนือกว่าให้กับธุรกิจของคุณในทุกการใช้จ่ายให้เป็นไปตามความต้องการ รวมถึงช่วยทำหน้าที่จัดทำรายงานค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันให้สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา หมดกังวลเรื่องทุจริตไปได้เลย!