ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น

จำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น

ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น

บริการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูงหลากหลายยี่ห้อ ทั้งน้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง และน้ำมันเบรค สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินทุกประเภท


บริการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูง ดังนี้


1. น้ำมันเครื่องคาลเท็กซ์ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด

สำหรับรถเครื่องยนต์เบนซิน

  • น้ำมันเครื่องฮาโวลีน -  สามารถใช้ได้กับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 

สำหรับรถเครื่องยนต์ดีเซล

  • น้ำมันเครื่องเดโล่ - สามารถใช้ได้กับรถยนต์เอสยูวี (SUV) รถกระบะ รวมถึงรถขนาดใหญ่  อย่างรถบรรทุก และรถบัส

2. น้ำมันหล่อลื่นพีที  แบ่งออกเป็น 2 ชนิด

สำหรับรถเครื่องยนต์เบนซิน

  • น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ พีที แมกซ์นิตรอน เซมิ ซินเธติก 15,000 (PT Maxnitron - Semi Synthetic 15000 10W-40) 
  • น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ พีที แมกซ์นิตรอน ซินเธติก 20,000 (PT Maxnitro - Synthetic 20000 5W-30)

ทั้ง 2 ชนิดสามารถใช้ได้กับรถนั่งส่วนบุคคล รถยนต์เอสยูวี (SUV)  เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่มีการใช้งานน้อยกว่า 200,000 กิโลเมตร

สำหรับรถเครื่องยนต์ดีเซล

  • น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์พีที แมกซ์นิตรอน ไฮ พาวเวอร์ดีเซล (PT Maxnitron - Power Diesel 20W-50) 
  • น้ำมันเครื่องสังเคราะห์พีที แมกซ์นิตรอนไฮ คอมมอนแรล (PT Maxnitron - Hi-Commonrail 10W-30)

ทั้ง 2 ชนิดสามารถใช้ได้กับรถกระบะ รถยนต์เอสยูวี (SUV) และรถตู้หรือรถบัส เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่มีการใช้งานน้อยกว่า 300,000 กิโลเมตร

3. น้ำมันหล่อลื่นบางจาก

สำหรับรถเครื่องยนต์เบนซิน

  • น้ำมันหล่อลื่นบางจาก ฟิวริโอ เพาเวอร์ (FURIO POWER 20W-50) ขนาด 4 ลิตร

เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10, E20, E85 NGV และรถที่ใช้ LPG เป็นเชื้อเพลิง สามารถใช้ได้ดีกับเครื่องยนต์เบนซินรถยุโรปและรถญี่ปุ่นทุกประเภท

  • น้ำมันหล่อลื่นบางจากสังเคราะห์แท้ ฟิวริโอ ฟูลลี่ ซินเธติก (FURIO FULLY SYNTHETIC 0W-20) ขนาด 4 ลิตร

เหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ต้องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง  เช่น  อีโคคาร์ (Eco car)  รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Car) รถยนต์หัวฉีดตรงที่มีระบบเทอร์โบชาร์จ (TDGI) และรถยนต์รุ่นใหม่ที่แนะนำน้ำมันหล่อลื่นที่มีความหนืด SAE 0W-20 สามารถใช้ได้กับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ NGV และ LPG เป็นเชื้อเพลิง

น้ำมันหล่อลื่นบางจาก ฟิวริโอ เพาเวอร์ FURIO POWER

สำหรับรถเครื่องยนต์ดีเซล

  • น้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์บางจาก ดี3 เทอร์โบ พลัส คอมมอนเรล (D3 TURBO PLUS COMMONRAIL SAE 10W-30)

เหมาะสำหรับรถที่มีแรงบิดสูงหรือมีการทำงานของเครื่องยนต์ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ให้การคุ้มครองเครื่องยนต์ ป้องกันการสึกหรอ

  • น้ำมันหล่อลื่นบางจาก ดี3 คอมมอนเรล (D3 Commonrail SAE 15W-40)

เหมาะสำหรับยานยนต์ที่ใช้งานหนักทุกชนิด เช่น รถปิกอัพ รถออฟโรด รถที่ใช้คอมมอนเรลทุกชนิด โดยมีระยะเวลาการเปลี่ยนถ่าย 10,000 กิโลเมตร

  • น้ำมันหล่อลื่นบางจาก ดี3 แมกซ์ (D3 Max SAE 20W-50)

เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้งานหนักทุกชนิด  เช่น รถบรรทุก 10 ล้อ, รถโดยสาร,  รถแทรกเตอร์, รถตู้, รถเครน, รถปิคอัพ, เรือประมง ยังสามารถใช้ได้กับรถยนต์นั่งเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปทั้งที่ติดเครื่องกรองไอเสีย (CATALYTIC CONVERTER) ได้อีกด้วย

น้ำมันไฮโดรลิคบางจาก

  • ไฮดรอไล้ท์เอดับบลิว 68 (Hydraulite AW 68) ขนาด 18 ลิตร

  • ไฮดรอไล้ท์เอดับบลิว 68 (Hydraulite AW 68) ขนาด 200 ลิตร

เหมาะสำหรับระบบไฮดรอลิคในเรือเดินสมุทร รถดัมพ์ รถยก รถเครน รถแทรกเตอร์ รถเกรด และระบบไฮดรอลิคในงานอุตสาหกรรม หล่อลื่นเครื่องอัดลม-แวกกั้มปั๊มชนิดลูกสูบ เกียร์อุตสาหกรรมความเร็วสูง งานเบา ระบบหล่อลื่นแบริ่งแบบหมุนเวียน และมอเตอร์ระบบไฮดรอลิคทั่วไป


 

เมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น ?

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สึกหรอหรือเสียหาย รู้หรือไม่? น้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง และน้ำมันเบรคนั้นควรเปลี่ยนถ่ายเมื่อใด 

 

น้ำมันเกียร์ (Gear Oil)

แน่นอนว่าการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ในระยะเวลาที่กำหนด จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น เพราะหน้าที่หลักของน้ำมันเกียร์ คือ ลดแรงเสียดทาน ลดการสึกหรอของเกียร์ ช่วยลดเสียงดังและอาการสั่นของเรือนเกียร์ อีกทั้งยังช่วยป้องกันสนิม และการกัดหร่อนจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเกียร์

  • สำหรับเกียร์ธรรมดา โดยทั่วไปแล้วจะมีระยะการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ปีละ 1 ครั้ง
  • สำหรับเกียร์ออโต้  ในคู่มือส่วนใหญ่จะบอกว่าควรเปลี่ยนถ่ายในระยะไม่เกิน 40,000 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามกรณีเป็นรถที่ใช้งานเยอะแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ปีละครั้ง 

แม้จะขึ้นชื่อว่าน้ำมันเกียร์เหมือนกัน แต่ระวัง ! น้ำมันเกียร์แต่ละชนิดถูกพัฒนามาให้ใช้งานกับระบบเกียร์ที่ต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงควรเลือกใช้น้ำมันเกียร์ให้ถูกประเภท หรือหากไม่แน่ใจ ไม่ต้องกังวล! คุณสามารถเปิดดูได้จากคู่มือที่ติดมาในรถของคุณได้

 

น้ำมันเครื่อง (Engine Oil)

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้คุณได้รับประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดีนั่นก็คือ “น้ำมันเครื่อง” เพราะน้ำมันเครื่องมีหน้าที่สำคัญในการหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ที่เกิดการเสียดสีขณะเครื่องยนต์ทำงาน รวมถึงการนำพาความร้อนหรือระบายความร้อนออกจากการทำงานของระบบในขณะขับขี่ 

ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามที่คู่มือกำหนด หรือเปลี่ยนเมื่อรถวิ่งถึงทุกระยะ 8,000 - 10,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 6 เดือน แต่หากรถของท่านมีใช้งานบ่อยอาจแนะนำให้เปลี่ยนทุกๆ 5,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ  3 เดือน 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณจะใช้งานรถของคุณบ่อยหรือไม่ก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำมันเครื่องเมื่อเปิดใช้งานแล้วจะมีอายุเพียง 1 ปี เท่านั้น เพราะเมื่อเปิดใช้งานแล้วจะมีออกซิเจนเข้าไปผสมปนกับเคมีในน้ำมันเครื่อง ดังนั้นเพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานและลดความสึกหรอของเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องจะต้องมีอายุการใช้งานนับตั้งแต่วันที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไม่เกิน 1 ปี ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์

 

น้ำมันเบรค (Brake Oil)

คุณสมบัติของน้ำมันเบรคนั้นสามารถต้านทานการเดือดและการเกิดฟองได้ ซึ่งปัจจุบันน้ำมันเบรคยุคใหม่ที่มีคุณภาพสูงจะสามารถสังเกตได้จากเลข DOT ซึ่งเลขที่มีค่ามาก แสดงว่ามีคุณสมบัติทนความร้อนที่มากตาม โดยปกติแล้วนำ้มันเบรคที่เปิดใหม่จะยังไม่มีความชื้นและสามารถทนความร้อนได้ถึง 300 องศาเซลเซียส แต่เมื่อมีความชื้นสะสมเข้าไปในระบบและถูกใช้งานเกินกว่า 2 ปี ประสิทธิภาพการทนความร้อนก็จะเสื่อมถอยลงเช่นกัน หากคุณปล่อยให้น้ำมันเบรคมีอายุการใช้งานเกินกว่ากำหนดหรือเสื่อมสภาพ อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุหรือรถเบรคแตกได้

สำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคนั้นควรเปลี่ยนถ่ายทุกปี หรือที่ระยะ  40,000 กิโลเมตร สำหรับรถใช้งานน้อย โดยปกติแล้วน้ำมันเบรคจะมีอายุการใช้งานสูงสุดที่ 3 ปี หรือที่ระยะ 80,000 กิโลเมตร หากไม่แน่ใจสามารถตรวจสอบจากคู่มือที่ติดมากับรถได้


หมั่นตรวจเช็คอุปกรณ์ตามระยะมาตรฐานจากคู่มือรถที่กำหนด จะช่วยให้การเดินทางในทุกครั้งของคุณปลอดภัยได้มากขึ้นอย่างแน่นอน


บริการของเราที่เกี่ยวข้อง