เทียบกันชัด ๆ ข้อดี - ข้อเสีย รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง VS รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

เทียบกันชัด ๆ ข้อดี - ข้อเสีย รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง VS รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

25 พ.ย. 2564   ผู้เข้าชม 46,363

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมถือเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนความก้าวหน้า ความล้ำสมัย ยานพาหนะถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามา ทำให้รถยนต์มีการปรับแต่งให้ดูทันสมัย ดูก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อพัฒนาโดยอิงกับกระแสการลดโลกร้อน รักษ์โลก จึงออกมาเป็นเทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ทางเลือกใหม่ ที่ได้รับความนิยม และมีกระแสตอบรับกลับอย่างล้นหลาม เพราะช่วยลดมลพิษ และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า

ซึ่งก็มีอีกหลายคนที่ยังลังเลว่า จะซื้อรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง หรือรถยนต์ไฟฟ้าดี ไม่ต้องกังวลกันอีกต่อไป เพราะในบทความนี้ เราจะมาเทียบความแตกต่างให้เห็นกันชัด ๆ ว่า ข้อดี - ข้อเสีย ของ รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แตกต่างกันอย่างไร

รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง

รถยนต์ที่ใช้กันโดยทั่วไป ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความต้องการของผู้ขับขี่

ข้อดี

  • สะดวกสบายในการขับขี่ระยะทางไกล มีสถานีให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่หลายจุด น้ำมันใกล้หมดเมื่อไหร่ หาที่เติมน้ำมันได้ง่าย ขึ้นเหนือ ล่องใต้ได้สบายมาก
  • เมื่ออะไหล่เกิดการชำรุดหรือสึกหรอ มีให้เลือกเปลี่ยนได้หลากหลายยี่ห้อ หลากหลายราคา

ข้อเสีย

  • เครื่องยนต์แต่ละรุ่น แต่ละขนาด มีอัตราในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกัน และยิ่งถ้าเป็นเครื่องยนต์เก่าหากดูแลรักษาไม่ดีมีอัตราในการเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูง และปล่อยก๊าซไอเสียส่งผลให้เกิดมลพิษตามมา 
  • เครื่องยนต์รุ่นเก่า อาจเกิดปัญหาเครื่องกระชากขณะเร่งเครื่อง และส่งผลให้เกิดเสียงดัง

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

 

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง

ข้อดี 

  • ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ที่บ้าน หรือสถานีบริการน้ำมันที่ให้บริการ
  • ประหยัดค่าน้ำมัน หากเทียบให้เห็นภาพ รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จสูงสุดที่ 11 kW แบตเตอรี่จุได้ 60 kW ใน 1 ชั่วโมง จะสามารถชาร์จได้ 11 kW ถ้าต้องการชาร์จเต็ม 60 kW ต้องใช้เวลาถึง 5-6 ชั่วโมง
  • สมมติว่า ไฟฟ้า 1 หน่วย = 1 kW หน่วยละ 3 บาท ชาร์จไฟ 6 ชั่วโมง จะเท่ากับ 11x3x6 = 198 บาท ซึ่งสามารถขับได้ 300-350 กิโลเมตร ประมาณ 1.5 บาท/กิโลเมตร ซึ่งราคาของน้ำมันจะอยู่ที่ 3-5 บาท/กิโลเมตร เมื่อเทียบดูแล้ว การชาร์จด้วยไฟฟ้า จะประหยัดเงินได้มากกว่า
  • ลดก๊าซพิษ และไอเสียจากเครื่องยนต์ เพราะขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
  • ใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้การขับขี่เบา เงียบ ขับได้สบาย ๆ ไม่มีเสียงเครื่องยนต์มารบกวน
  • ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน และออกตัวได้ดีกว่าเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง

ข้อเสีย

  • สถานีให้บริการชาร์จไฟฟ้า มีจุดให้บริการยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ไม่สะดวกสบายหากต้องเดินทางในระยะไกล
  • ใช้เวลาในการชาร์จค่อนข้างนานพอสมควรขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่
  • ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างสูง หากเทียบกับรถยนต์ในท้องตลาดทั่วไป เพราะมาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย จึงมีราคาที่สูงขึ้นไปด้วย
  • ระยะการขับสั้นกว่า ต้องดูว่าขนาดความจุของแบตเตอรี่นั้นเพียงพอต่อการเดินทางหรือไม่ ส่วนมากความจุแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 60-90 kW ซึ่งจะวิ่งได้สูงสุด 300-600 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง ควรคำนวณระยะการเดินทางให้ดี หากต้องขับขี่ในระยะไกล
  • เป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ จึงมีอะไหล่ให้เลือกเปลี่ยนไม่หลากหลาย และมีราคาที่ค่อนข้างสูง 

 

ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง หรือรถยนต์ไฟฟ้า ต่างก็มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ การใช้งานของผู้ใช้รถนั้นเน้นจุดใดเป็นสำคัญ หากเน้นการขับขี่ในระยะทางใกล้ ๆ ประหยัดค่าใช้จ่าย รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แต่หากเน้นการขับขี่ทางไกล และคำนึงถึงความสะดวกรวดเร็ว รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า และคุ้มค่ามากกว่า


เกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้อง

สีของน้ำมันเครื่อง สามารถบอกสุขภาพเครื่องยนต์ได้จริงหรือ?
29 ธ.ค. 2564

สีของน้ำมันเครื่อง สามารถบอกสุขภาพเครื่องยนต์ได้จริงหรือ?

สาระน่ารู้
ควันขาว-ควันดำจากรถ! สัญญาณเตือนว่ารถกำลังมีปัญหา
07 มี.ค. 2565

ควันขาว-ควันดำจากรถ! สัญญาณเตือนว่ารถกำลังมีปัญหา

สาระน่ารู้