รู้ก่อนใคร! ภาษีและกฎหมายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย

รู้ก่อนใคร! ภาษีและกฎหมายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย

23 ก.พ. 2565   ผู้เข้าชม 8,010

ใครที่กำลังวางแผนจะออกรถคันใหม่ และ กำลังสนใจรถยนต์ไฟฟ้าต้องอ่าน!! กระแสรักษ์โลกกำลังมาแรง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าEV ได้รับความสนใจ และตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง  ประหยัดพลังงาน และช่วยลดมลพิษ ซึ่งถือว่าตอบโจทย์อย่างมากในปัจจุบัน

รถยนต์ไฟฟ้า

แต่มีหนึ่งสิ่งที่หลายคนยังไม่รู้เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า EV คือ “ภาษี และกฎหมายรถยนต์ไฟฟ้า” ในบทความนี้ แพนด้า สตาร์ออยล์ จะพาทุกคนไปดูว่า ภาษีของรถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปอย่างไร และต้องจ่ายภาษีรถยนต์ไฟฟ้าในอัตราเท่าไหร่ พร้อมแล้วไปดูกันเลย!

นโยบายการผลักดันรถไฟฟ้าในประเทศไทยปี 2565

รถยนต์ไฟฟ้าEV

ปัจจุบัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังได้รับความสนใจ อีกทั้งภาครัฐยังผลักดันและเตรียมมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าEV 3 ประเภท เพื่อส่งเสริมผู้ผลิตรถยนต์ในไทย ดังนี้

 

1.รถเก๋ง : ราคาขายปลีกไม่เกิน 2 ล้านบาท และต้องเป็นรถที่ผลิตและประกอบในประเทศ

รถยนต์ไฟฟ้าEV

สิทธิประโยชน์

  • ได้รับส่วนลดอากรขาเข้าสูงสุด 40% ในปี 2565-2566
  • ลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เป็น 2% ในปี 2565-2568
  • ได้รับเงินอุดหนุนในปี 2565-2568 คันละ 70,000 บาท สำหรับรถที่ใช้ขนาดแบตเตอรี่ต่ำกว่า 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
  • ได้รับเงินอุดหนุน 150,000 บาท สำหรับรถใช้แบตเตอรี่ 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงขึ้นไป

 

เงื่อนไขการรับสิทธิ

  • ผู้ประกอบการในประเทศ
  • ผลิตรถยนต์ชดเชยในปี 2567 เท่ากับจำนวนที่นำเข้า CBU ในปี 2565-2566 อัตราส่วนนำเข้า 1 คัน ผลิต 1.5 คัน

 

2.รถจักรยานยนต์ : ราคาขายปลีกไม่เกิน 150,000 บาท

รถยนต์ไฟฟ้าEV

สิทธิประโยชน์

  • เงินอุดหนุนคันละ 18,000 บาท ทั้ง รถที่ผลิตในประเทศ CKD (Completely Knocked Down) และ รถที่ผลิตต่างประเทศ CBU (Completely Built Up) ในปี 2565-2568

 

เงื่อนไขการรับสิทธิ

  • ผู้ประกอบการในประเทศ
  • ผลิตรถจักรยานยนต์ชดเชยในปี 2567 เท่ากับจำนวนที่นำเข้า CBU ในปี 2565-2566 (ขยายได้ถึงปี 2566) ต้องผลิตอัตราส่วนนำเข้า 1 คัน ผลิต 1.5 คัน

 

3.รถกระบะ : ราคาขายปลีกไม่เกิน 2 ล้านบาท

รถยนต์ไฟฟ้าEV

สิทธิประโยชน์

  • ลดภาษีสรรพสามิตเป็น 0% ในปี 2565-2568
  • เงินอุดหนุนในปี 2565-2568 คันละ 150,000 บาท สำหรับรถยนต์กระบะ BEV (Battery Electric Vehicle) แบตเตอรี่ขนาดตั้งแต่ 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงขึ้นไป (เฉพาะที่ผลิตในประเทศ)

 

นอกจากนี้รัฐและเอกชนยังผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยการเพิ่มแท่นชาร์จให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ และวางมาตรการส่งเสริมการลงทุนสถานีชาร์จไฟฟ้าในอีก 2 ส่วน ได้แก่ การกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าที่จูงใจต่อการลงทุน และการอำนวยความสะดวกในการติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้า

 

ความนิยมของการใช้รถไฟฟ้าในประเทศไทย

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

แม้ยอดขายรถยนต์จะลดลง ด้วยสถานการณ์โรคระบาดและเศรษฐกิจ แต่กลับสวนทางกับรถยนต์ไฟฟ้า ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้ราคาจะยังสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง  แต่เมื่อนำเหตุผลอื่น ๆ มาประกอบกัน รถยนต์ไฟฟ้าถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก ทั้งด้านความคุ้มค่าในการใช้งาน การประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ รักษ์โลก ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว

 

การเก็บภาษีของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปี 2565

ประหยัดพลังงาน

การเก็บภาษีรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นแตกต่างจากภาษีรถยนต์ทั่วไป โดยอัตราภาษีได้ถูกยึดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ.2522 ว่า รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า ต้องเสียภาษีตามน้ำหนักของรถ ในอัตรารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน โดยเรียกเก็บดังนี้

 

 น้ำหนักรถ  ภาษีปีละ 
 500 กิโลกรัม  150 บาท
 501-750 กิโลกรัม  300 บาท
 751-1,000 กิโลกรัม  450 บาท
 1,001-1,250 กิโลกรัม  800 บาท
 1,251-1,500 กิโลกรัม  1,000 บาท
 1,501-1,750 กิโลกรัม  1,300 บาท
 1,751-2,000 กิโลกรัม  1,600 บาท
 2,001-2,500 กิโลกรัม  1,900 บาท
 2,501-3,000 กิโลกรัม  2,200 บาท
 3,001-3,500 กิโลกรัม   2,400 บาท
 3,501-4,000 กิโลกรัม  2,600 บาท
 4,001-4,500 กิโลกรัม  2,800 บาท
 4,501-5,000 กิโลกรัม  3,000 บาท
 5,001-6,000 กิโลกรัม  3,200 บาท
 6,001-7,000 กิโลกรัม  3,400 บาท
 7,001 กิโลกรัม ขึ้นไป  3,600 บาท

 

หากทำความเข้าใจง่าย ๆ คือ อัตราการจ่ายภาษีของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถยนต์ไฟฟ้าEV นั้น ใช้อัตราภาษีเดียวกันกับรถกระบะที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง คือคิดอัตราภาษีตามน้ำหนักรถ ซึ่งมีอัตราค่าภาษีที่ถูกกว่ารถยนต์ที่เก็บอัตราภาษีตามขนาดความจุกระบอกสูบของรถยนต์ อย่างรถเก๋งหรือรถกระบะ 4 ประตู
 
รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะนอกจากภาษีรถยนต์ที่จ่ายถูกลง ยังช่วยลดโลกร้อน และ ประหยัดพลังงาน รถยนต์ทางเลือกของคนยุคใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมต้อง รถยนต์ไฟฟ้าEV


เกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้อง

รถยนต์เก่าเกิน 10 ปี ควรใช้น้ำมันเครื่องแบบไหน?
04 ก.พ. 2565

รถยนต์เก่าเกิน 10 ปี ควรใช้น้ำมันเครื่องแบบไหน?

สาระน่ารู้
เติมลมยางรถเท่าไหร่ดี ? จึงจะประหยัดน้ำมันและปลอดภัยต่อการเดินทาง
30 ธ.ค. 2564

เติมลมยางรถเท่าไหร่ดี ? จึงจะประหยัดน้ำมันและปลอดภัยต่อการเดินทาง

สาระน่ารู้