เคยตั้งคำถามกันหรือไม่ว่า น้ำมันเชื้อเพลิงที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่ใช้เติมน้ำมันอยู่ทุกวันนี้ มีต้นกำเนิดมาจากไหน บทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกคุณประโยชน์ที่มากมายของน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดนี้
จุดเริ่มต้นของ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ มาจากแนวคิดพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ได้ริเริ่มโครงการน้ำมันแก๊สโซฮอล์ขึ้นมา โดยมุ่งหวังให้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่จะแก้ไขปัญหาน้ำมันที่ใกล้จะหมดลง บวกกับปัญหาเรื่องของพืชผลทางการเกษตรที่ราคาย่ำแย่ โดยนำเอาแอลกอฮอล์ที่ได้จากการสกัดจากพืชอ้อย มาผสมกับน้ำมันเบนซิน จนกลายเป็นพลังงานทดแทนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมาถึงปัจจุบัน
น้ำมันแก๊สโซฮอล์สามารถแยกได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้
คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสัดส่วนของ น้ำมันเบนซินออกเทน 91 ผสมกับเอทานอล (Ethyl Alcohol) ในอัตราส่วน 10% ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เป็นน้ำมันประเภทที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในเครื่องยนต์ทั่วไป มีราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ที่มีความแตกต่างด้านส่วนผสมเพียงเล็กน้อย
คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสัดส่วนของ น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ผสมกับเอทานอล (Ethyl Alcohol) ในอัตราส่วน 10% มีความแตกต่างกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ในด้านของ สาร MTBE (Methyl Tertiary Butyl Ether) ที่ใส่เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะช่วยเพิ่มค่าออกเทนให้มีค่าสูงขึ้น เมื่อมีค่าออกเทนสูงจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยจุดระเบิดน้ำมันได้ดีกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ไอเสียที่ปล่อยออกมาจะสะอาดมากกว่า และมีราคาที่สูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดอื่น ๆ นั่นเอง
คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสัดส่วนของ น้ำมันเบนซินชนิดพิเศษ 80% ผสมกับเอทานอล (Ethyl Alcohol) ในอัตราส่วน 20% หากเปรียบเทียบกันในด้านของการขับขี่อาจไม่ได้แตกต่างจากน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ถือว่ามีความใกล้เคียงกัน หากพูดถึงเรื่องราคา E20 นั้นจะมีราคาที่สูงกว่าน้ำมัน E85 และหากวัดกันที่ความคุ้มค่า ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ E20 มากกว่า เพราะว่ามีอัตราการสิ้นเปลืองที่น้อยกว่า E85 นั่นเอง
คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสัดส่วนของน้ำมันเบนซิน 15% ผสมกับเอทานอล (Ethyl Alcohol) ในอัตราส่วน 85% ถือเป็นน้ำมันที่มีราคาถูกที่สุด เนื่องจากมีปริมาณน้ำมันเบนซินเพียง 15% จึงส่งผลให้ราคาลดหลั่นลงมา
ข้อดี คือ เป็นพลังงานเชื้อเพลิงแบบประหยัด มีค่าออกเทนสูง ซึ่งช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์มากขึ้น แต่น้ำมันชนิดนี้กลับมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เยอะที่สุด มีอัตราการเผาไหม้มากกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดอื่น ๆ ด้วยแอลกอฮอล์ที่เยอะทำให้น้ำมันระเหยง่าย ดังนั้นแม้จะราคาถูกที่สุด แต่หากขับขี่ในระยะทางไกล น้ำมันชนิดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่มากนัก เพราะมีอัตราการสิ้นเปลืองที่มากกว่านั่นเอง
หากมองผิวเผิน อาจจะไม่รู้ว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์แต่ละประเภทมีความแตกต่าง และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เมื่อนำเหตุผลต่าง ๆ มาเทียบเคียงกัน เราจะเห็นว่า น้ำมันแก๊สโซฮอล์ มีประโยชน์มากกว่าที่คิด ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่า ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ลดภาวะโลกร้อน จึงไม่แปลกที่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้รับความนิยม และใช้มายาวนานถึงปัจจุบัน